อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้อ่าน
หมอได้เคยไปอบรม โรงเรียนพ่อแม่กับ อาจารย์นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ และ อาจารย์ได้เคยเขียนไว้ในเพจของอาจารย์ และมีบางส่วนจากหนังสือ Being There
Why Prioritizing Motherhood in the First Three Years Matters
“ถ้าแม่เป็นคนเลี้ยงหลักจะดีที่สุด และในช่วงสามขวบแรกของลูก แม่ควรแสดงการมีอยู่จริงทั้งทางกายและใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เราไม่ได้หมายความว่าแม่ต้องอยู่กับลูกทุกนาทีหรือทุกวัน หรือทำกิจกรรมร่วมกับลูกทุกนาทีที่ลูกตื่น และไม่ได้หมายความว่า แม่ไม่ควรไปทำงานนอกบ้าน
แต่ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า ยิ่งแม่ใช้เวลาอยู่กับลูกมากเท่าไหร่ ลูกจะยิ่งมีความสุข และมีสุขภาพกายและใจที่ดีมากขึ้นเท่านั้น”
“แม่ในสามขวบปีแรก” คือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนามนุษย์ #เมื่อไรรัฐบาลจะรู้
ที่ผมพูดและถูกถามเสมอมาว่าเอาพ่อไปไว้ที่ไหน แล้วผมจะตอบอย่างจริงจังเสมอว่าพ่อเอาไว้หารสอง เพราะงานสามปีแรกของแม่นั้นหนักหนาสาหัสเกินกว่ามนุษย์จะทำได้ด้วยตัวคนเดียวโดยง่ายอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีอีกคนหนึ่งมาหารสองย่อมดีกว่า ง่ายกว่า สบายกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยเงื่อนไขที่ว่าถ้าคนหารนั้นเอาดีมิได้ เราทำคนเดียวได้ง่ายกว่ามาก
อนึ่ง คำว่าแม่มิได้แปลว่าต้องเป็นผู้หญิง คำว่าพ่อมิได้แปลว่าต้องเป็นผู้ชาย ที่เราต้องการคือ “คนเลี้ยงหลัก”
“เงินมากเท่าไรก็ซื้อวินาทีคืนมามิได้”
“เด็กๆ ควรได้เวลา ความใส่ใจและความสนใจ ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี”
“การใช้เวลากับลูกจะให้ประโยชน์ระยะยาว เช่นเดียวกับการทำตรงกันข้าม ก็จะสร้างผลสะท้อนกลับในระยะยาวเช่นกัน”
เรื่องอุ้ม กอด บอกรัก ให้นม นอนด้วยกัน ไม่มีคำว่ามากเกินไป
เมื่อพบลูกร้องไห้ โดยเฉพาะทารกขวบปีแรกร้องไห้ ไม่มีอะไรให้คิดนอกจากอุ้มและกอด ไม่มีคำว่ามากเกินไป ไม่มีคำว่าติดแม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องความเข้มแข็งหรือความอดทน หน้าที่ของเราคืออุ้ม
อุ้มมากๆวันนี้ส่งผลระยะยาวต่ออนาคตที่ดีของลูก ไม่อุ้มวันนี้ ปล่อยเขาร้องโดยไม่ใยดี จะส่งผลระยะยาวเช่นเดียวกัน
คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เราทำวันนี้กับยี่สิบปีข้างหน้าได้ แต่แท้จริงแล้วมีความเชื่อมโยงนั้นอยู่
เด็กมี 2 ชนิด เลี้ยงง่าย และเลี้ยงยาก หากเราได้เด็กเลี้ยงยากมาเกิด เราให้ คืออุ้ม เขาจะเปลี่ยนได้ เราไม่ให้ ปล่อยเขาร้อง เขาจะร้องตลอดไป
อุ้มจนกว่าเขาจะรู้ว่า อย่ากลัว ไว้ใจแม่ได้ “แม่มีอยู่จริง” และโลกมิได้น่ากลัวเสมอไป
อาจารย์ย้ำเสมอว่าไม่ควรไปจากลูก #ในสามขวบปีแรก แต่ด้วยความเกรงใจและเห็นใจคุณแม่บ้านเราที่ต้องทำงาน จึงไม่อยากกดดันซ้ำ เพราะอยู่บ้านเราแล้วไม่มีเงินเป็นเรื่องทุกข์มาก ทั้งที่การพรากจากกันในเวลาที่เด็กไม่พร้อมเป็น. #เรื่องใหญ่เกินไป ทำให้เกิดพยาธิสภาพทางจิตได้มากเกินไป จิตวิเคราะห์เขียนไว้ชัด และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระยะหลังก็ยืนยัน
งานสำคัญ เงินสำคัญ ไม่มีเงินก็แย่แน่ๆ แย่มากด้วย แต่วันหนึ่งมี 24 ชม รักษาสมดุลของเงินและเวลาให้แก่ลูกดีๆ อีกยี่สิบปีเงินจะเหลือ
“เราไม่อาจคัดค้านได้ว่าช่วงสามปีแรกของลูกเป็นช่วงสำคัญในการสร้างตัวตน”
“หากว่าเป็นไปได้ที่จะหยุดพักงานไว้ก่อน หากว่าเป็นไปได้ที่จะทำงานพาร์ทไทม์ หรือหากว่าเป็นไปได้ที่จะทำงานจากบ้านบ้างหรือทำไปเลยถาวร ฉันเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนนี้คุ้มค่า
สามปีแรกสำคัญ ตัวตนสร้างเสร็จในสามปี ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เรียบร้อยแล้วในสามปี
คือสามปีที่เราควรอยู่กับเขามากที่สุดแม้ว่าจะอยู่ไม่ได้เพราะต้องไปทำงาน แต่ถ้าเราเห็นความสำคัญเราจะอยู่กับเขาจนได้แม้ว่าไม่ต้องลาออกจากงาน
คือที่ผมพูดเสมอมาอีกเช่นกันว่าลูกไม่ต้องการของเล่นแต่ต้องการคุณ คุณแม่และคุณพ่อตัวเป็นๆคือของเล่นที่ดีที่สุดของลูก
“ไม่มีอะไรทดแทนการมีอยู่จริงของแม่ได้ เราหลอกตัวเองด้วยคำว่า ‘ช่วงเวลาคุณภาพ’ ซึ่งเป็นความเชื่อโบราณที่ยังคงมีข้อโต้แย้งว่า เราสามารถสร้างความใกล้ชิดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่กำหนดได้จริงหรือไม่ ทางเดียวที่จะมองเห็นทั้งด้านดีและด้านลบของคนคนหนึ่งได้ก็คือ ต้องเฝ้าดู เฝ้ารอ และเตรียมพร้อมสำหรับพวกเขาเสมอ”
“พัฒนาการของทารก ทั้งทางกาย สติปัญญา และอารมณ์ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พวกเขากำหนด #ไม่ใช่คุณกำหนด
……หากไม่ได้อยู่กับลูก คุณไม่ได้แค่พลาดเรื่องพัฒนาการทางกาย ก้าวแรก หรือคำพูดแรก
…… แต่อาจพลาดเรื่องพัฒนาการทางด้านอารมณ์ด้วย การควบคุมอารมณ์เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง”
พูดแล้วพูดอีกก็เข้าใจยากว่าลูกไม่ต้องการเงินของคุณ เขาต้องการเวลาของคุณ และเงินมากเท่าไรเราก็ซื้อเวลาเพิ่มมิได้
หากรักษาสมดุล 24 ชม ไม่ดี เงินที่ได้วันนี้จะได้จ่ายค่าเสียหาย ค่ายาจิตเวช ค่าทนาย และค่าประกันตัว
แล้วก็มาถึงคำที่ผมพูดตั้งแต่แรกโดยไม่เกรงใจใคร นั่นคือ “ปริมาณเวลาสำคัญกว่าคุณภาพ”
วันนี้ผมก็พูดอยู่ “ปริมาณเวลาสำคัญกว่าคุณภาพ” เพราะเวลาที่น้อยเราไม่มีวัน “มองเห็น” ลูกได้เลย เท่านั้นเอง
ทั้งนี้ยังไม่นับว่าคุณภาพที่ว่ากัน แปลว่าอะไร?
“พวกเขากำหนด ไม่ใช่คุณกำหนด”
ขอขอบพระคุณความรู้และความจริงจาก อาจารย์นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
และหนังสือ
Being There
Why Prioritizing Motherhood in the First Three Years Matters
เอริก้า โคมิซาร์ และซิดนี่ย์ ไมเนอร์
คุณแม่อติน แปล
SandClock Books
#parenting